ยาสมุนไพรสกัดพิเศษโดยผ่านมาตรฐาน GMPปลอดภัย 100% By Slim Celeb
เคล็ดลับ การทานยาให้ถูกวิธีและเห็นผลไว
ตื่นนอนมาดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อเป็นการชำระของเสียออกจากร่างกาย หลังจากนั้นแปรงฟันได้เลย วิธีนี้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายดีค่ะ หลังจากนั้น ทานยาก่อนอาหารเช้าหรือเที่ยง 20 นาที ครั้งละ 1-2 เม็ด ตามด้วยน้ำที่ไม่เย็นจัด ระหว่างวันดื่มน้ำบ่อยๆ ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ งดอาหารที่มีไขมันจัด เน้นผักและผลไม้ เพื่อระบบขับถ่ายที่ดีต่อร่างกาย (จะลดได้ดีที่สุด) ห้ามอดอาหารเด็ดขาด ! เพราะการอดอาหารเป็นสาเหตุของการเกิดโยโย่เอฟเฟค ถึงไม่ทานยาแต่อดอาหารเอง ก็ล้วนเกิดโยโย่ได้นะจ๊ะ ควรหานมเปรี้ยวหรือโยเกริต ทานหลังอาหารหรือก่อนนอน จะช่วยระบบขับถ่ายได้ดีเช่นกัน ควรออกกำลังกายขั้นต่ำครึ่งชั่วโมง (ยิ่งเหงื่อออกมากน้ำหนักยิ่งลงเร็ว เพราะยาทางร้านเป็นสมุนไพรจะขับออกทางเหงื่อ ฉี่ อุจจระ ไม่มีการบีบกดประสาท ทำได้แบบนี้น้ำหนักลดลงและเห็นผลไวแน่นอนค่ะ หลังหยุดยาแนะนำให้ทานดีท๊อกซ์ล้างสิ่งตกค้างและปรับระบบดูดซึมเพื่อสุขภาพค่ะ
สำหรับท่านที่พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก นอนดึก อาจมีอาการเวียนหัว เพลีย ใจสั่น ให้ปรับเปลี่ยนมาทานยาหลังอาหารหรือลดปริมาณยาลง ดังนั้นควรเตรียมความพร้อมและพักผ่อนให้เพียงพอก่อนทานยาด้วยก็ดีนะคะ
อาการข้างเคียงที่ปกติ คือ เหงื่อออกเยอะ กระหายน้ำ รู้สึกอิ่มทั้งวัน ทานอาหารได้น้อยลง
ในระหว่างการใช้สมุนไพรลดน้ำหนัก ต้องรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามคำแนะนำร่วมกับการออกกำลังกายอย่าง สม่ำเสมอทุกวัน บางคนคิดว่ากินยาลดน้ำหนักแล้ว ฉันต้องผอมแน่ๆ ก็เลยยังคงกินอาหารเหมือนเดิม หรือไม่ก็เผลอตามใจปากอยู่เรื่อยๆ คิดแต่ว่ากินเข้าไปเถอะยังไงก็ไม่อ้วนออกกำลังกายก็ไม่ทำ ไม่ขยับเคลื่อนไหวเพื่อเผาผลาญพลังงานอะไรเลย หวังพึ่งแต่ยาลดน้ำหนักอย่างเดียว ปรากฎว่าน้ำหนักไม่ลดแถมยังขึ้นเอาๆ ก็มาโวยวาย ว่าทำไมทานยาไปแล้วน้ำหนักถึงไม่ลด อย่างนี้ต่อให้เป็นหมอเทวดาก็ช่วยไม่ได้
บางคนเข้าใจว่าที่น้ำหนัก ไม่ลดเพราะทานยาน้อยเกินไปก็มี เลยใช้วิธีเพิ่มปริมาณยามากขึ้น เพราะหวังว่าจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้ คนที่คิดแบบนี้น่าเป็นห่วง การใช้ยาเกินปริมาณจะทำให้เกิดอันตรายจากผลข้างเคียงของยาได้ ต้องระวังในข้อนี้ให้จงหนัก ทีนี้เมื่อน้ำหนักลดลงตามที่ต้องการแล้ว ควรกลับมาเพื่อปรับลดขนาดยาลง และเพื่อให้น้ำหนักคงที่ไม่เกิดอาการโยโย่ yo – yo effect ตามมาด้วย การปรับยาเพิ่มควรปรึกษาจากคนขายก่อนนะคะว่าเหมาะสมระดับไหน
หลายๆ ท่านคงเคยได้ยินคำนี้กันมาบ้างแล้วนะคะ อาการโยโย่ yo–yo effect เป็นสิ่งที่คนทานยาลดน้ำหนักมักจะกลัวกัน คือ หลังจากหยุดใช้ยาน้ำหนักจะสูงกลับขึ้นเท่าเดิม หรือจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะร่างกายปรับสภาพให้เผาผลาญพลังงานน้อยลงในช่วงที่ทานยา พอหยุดยาร่างกายยังคงเผาผลาญในอัตราเท่าเดิม ถ้าไม่ระมัดระวังเรื่องการกินก็มีสิทธิ์น้ำหนักขึ้นพรวดกลับมาใหม่ได้
ดังนั้น หลังจากหยุดทานยาสมุนไพร ต้องควบคุมเรื่องอาหารให้ดีเช่นกัน รับประทานอาหารแค่พออิ่ม หลีกเลี่ยงอาหารที่อุดมด้วยของทอด ไขมัน แป้ง ควรปรุงอาหาร ด้วยวิธีนึ่ง เผา ย่าง และต้มแทน หลีกเลี่ยงของหวาน น้ำหวาน หรือน้ำอัดลม หันมารับประทานผัก ผลไม้ที่ไม่หวานจัด แล้วอย่าลืมออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย
บุคคลที่มีอาการและโรคประจำตัวต่อไปนี้ไม่ควรทานยา
1. โรคความดันโลหิตสูง-ต่ำ หากไม่ทราบว่าเป็นหรือไม่ ? สังเกตที่อาการจะมึนๆ เบลอๆ หน้ามืด
2. โรคหัวใจ หากไม่ทราบว่าเป็นหรือไม่ ? สังเกตว่ากินแล้วใจสั่น กระสับกระส่าย
3. โรคหืดหอบ
4. โรคร้ายแรงต่างๆ เช่น เม็ดเลือด ไทรอย
5. เด็กและสตรีมีครรภ์หรือผู้ที่ให้นมบุตร
บุคคลที่ทานอาหารถูกเวลาและพักผ่อนเพียงพอ ลดยาลงแล้ว แต่ยังมีอาการ คลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว เวียนหัวทั้งวัน สมองไม่สั่งการ หายใจติดๆขัดๆ หัวใจเต้นแรง และอาการอื่นๆที่ผิดปกติ ควรหยุดยาค่ะ
ยาทางร้านเป็นยาสมุนไพร ส่วนผสมหลักๆ เช่น ส้มแขก พริกไทยดำ ไฟเบอร์ อโวคาโด้ ถั่วขาวแอลกลูตามีน แอลคาเนทีน ชาเขียว กระบองเพชร ว่านหางจระเข้ ฯลฯ ไม่มีส่วนผสมของยาอันตราย ยากดปราสาท หากท่านแพ้สมุนไพรให้หยุดทานทันทีค่ะ
# หากทุกคนตระหนักและใส่ใจในการรับประทานยาสมุนไพรลดน้ำหนัก ไม่หักโหมจนเกินไป ไม่ฝืนอาการตนเอง ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ยาจะเห็นผลทั้งหมดและไม่ส่งผลอันตรายอย่างแน่นอนค่ะ ด้วยความไว้วางใจมามากกว่า 4 ปี เรายินดีเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำค่ะ
หากฝืนตัวเองทานยาเกินขนาด ไม่ทำตามที่แนะนำ ทางเราจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นค่ะ
ไม่ควรซื้อยาลดน้ำหนักมากินสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือผู้รู้นะคะ
วิธีล้างของเสียด้วยชาดีท๊อกซ์
ใครที่ทานยาต่างๆมาเยอะหรือทานวิตามินอะไรก็ไม่ดูดซึม ไม่เห็นผล แนะนำให้ทานชาดีท๊อกซ์ล้างคราบไขมันในลำไส้ก่อนนะคะ เมื่อระบบดูดไม่ได้ พวกสารอาหาร และโปรตีน จะถูกส่งไปให้ไตขับทิ้ง ไตก็ต้องทำงานหนัก และอ่อนล้าเป็นธรรมดา ผลที่ตามมาคือความเจ็บป่วย การเกิดโรคต่างๆ
วิธีรับประทาน
แช่ชาในน้ำร้อนจัด 2-5 นาที ในแก้วใหญ่ 250 ml. แล้วนำถุงชาออกจากแก้ว (คนท้องผูกให้แช่นาน 10-15 นาที) ดื่มก่อนนอนหรือหลังอาหารเย็น ดื่มติดต่อกัน 14 วัน คนทานเจ ควรดื่มติดต่อกันเพียง 7 วัน หลังจากนั้น ดื่มสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ปฏิกิริยา 1-5 วันแรก จะมีกลิ่น สี ที่รุนแรง ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคของแต่ละคน (สำหรับ คนที่มีปัญหาท้องผูก ดื่มวันแรกควรแช่นานประมาณ 5-7 นาทีก่อน แล้วค่อยแช่ให้นานขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องการปรับสภาพก่อน คอยเช็คจำนวนครั้งในการขับถ่ายต่อวัน หากถ่ายบ่อยให้ลดเวลาในการแช่ถุงชาลง) เด็กและสตรีมีครรภ์ ผู้ที่ตัดต่อลำไส้และป่วยเป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรงไม่ควรรับประทาน
ผู้ชมทั้งหมด | 321,879 ครั้ง |
เปิดร้าน | 5 ก.ค. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 17 ก.ย. 2568 |
ID LINE : @roeishop